“หลายคนมักคิดเห็นแก่ตัวในการกระทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โดยที่ไม่ได้ใส่ใจในวิธีการที่ได้ปรุงวิธีการลงไป”
คนทุกคนย่อมต้องการในความสำเร็จของตัวเอง แม้จะต้องผ่านอุปสรรคมากมายสักเท่าไหร่ก็ตาม หากเป็นความอยากสำเร็จที่ตนมานะพยายามไปได้โดยไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนถือว่าเป็นความสำเร็จที่สวยงาม แต่หากเป็นความกระหายความสำเร็จอันนี้แหละน่ากลัวที่สุด เพราะทุกอย่างที่ขวางหน้าเขานั้นเขาต้องผ่านมันไปให้ได้ไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตามซึ่งจะทำให้ทุกอย่างที่เขาได้ข้ามผ่านพลันเดือดร้อนตามกันไปหมด
เราลองคิดดูซิว่าหากใครคนหนึ่งต้องการถีบตัวเองไปสู่ความสำเร็จ แต่เราดันเป็นจิ๊กซอตัวหนึ่งที่เขาต้องนำประติดประต่อเพื่อให้ได้รูปความสำเร็จนั้นสมบูรณ์เราจะทำอย่างไร?
คำถามนี้ผมตอบไม่ได้หรอกเพราะตอนนี้ผมคิดว่าผมยังไม่ได้เป็นจิ๊กซอของใครเพราะผมเป็นแค่นักศึกษาตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ต้องการความสำเร็จในความฝันของตัวเองเช่นกัน หากคุณเคยเป็นจิ๊กซอของใครหรือใครเคยเป็นจิ๊กซอของคุณคุณอาจเข้าใจดีในจุดๆนั้นว่าเป็นเช่นไรและควรทำอย่างไรให้ผ่านสถานการณ์นั้นไปได้ด้วยดี
บทความนี้ผมไม่ต้องการเขียนที่จะกระแทกใครหรอกแต่เป็นบทความที่อาจารย์สั่งให้ผมไปอ่านบทความของกุหลาย สายประดิษฐ์ แล้วมาเขียนว่าได้รับแรงบันดาลใจอะไรบ้าง
ก่อนอื่นผมต้องขอประทานโทษเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่ผมจะมาอ่านบทความของกุหลาบ สายประดิษฐ์ นี้ ผมยังไม่รู้จักกุหลาย สายประดิษฐ์ เท่าใดนักยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นนักหนังสือพิมพ์ รู้เพียงว่าเขาเป็นนักเขียนคนหนึ่งซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจในงานเขียนของเขา เพราะปัจจุบันมีหนังสือมากมายให้ผมได้เลือกอ่านตามใจชอบและไม่ชอบ พอตอนได้มาอ่านชีวประวัติและบทความของกุหลาบ สายประดิษฐ์แล้วเราสมควรอย่างยิ่งที่จะนำเอาเป็นตัวอย่างในการถีบตัวเองไปสู่ความสำเร็จในอุดมการณ์ที่ตัวเองอยากเป็น ด้วยวิธีการต่อสู้ที่บริสุทธิ์ไม่ว่าจะต้องผ่านอะไรก็ตามความอิสรภาพของหนังสือพิมพ์เป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้น
ผมเพิ่งรู้ว่ากุหลาย สายประดิษฐ์ เป็นนักหนังสือพิมพ์ที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของหนังสือพิมพ์มาโดยตลอด โดยยิ่งสังคมประชาธิปไตยแล้วยิ่งขาดหนังสือพิมพ์เสียมิได้เลยเพราะหนังสือพิมพ์เป็นช่องทางในการเป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชนในการทำงานของรัฐบาลเพื่อประโยชน์ของประชาชนเองและเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ยังเป็นหลักประกันของประชาชนภายในตัวอีกด้วย โดยหลักคติข้อสำคัญที่
กุหลาย สายประดิษฐ์ ยึดถือมาโดยตลอดชีวิตของเขาก็คือคำกล่าวที่บอกว่า “ ความซื่อสัตย์คือความจริง ความจริงคือความซื่อสัตย์ ” ซึ่ง ณ ที่นี้หมายถึง “ เกียรติ ” นั่นเอง (การหนังสือพิมพ์ของฉัน,2549:221)หากเรามีความซื่อสัตย์เป็นจุดยืนต่อวิชาชีพของเราแล้วความจริงย่อมปรากฏอย่างแน่นอนถึงแม้บางครั้งมันอาจจะขมขื่นบ้างก็ตาม
จากที่ได้อ่านบทความของกุหลาย สายประดิษฐ์ ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจพอสมควรในเรื่องการเสาะแสวงหาความจริงในการทำข่าวโดยไม่มีอคติมาเกี่ยวข้องและการต่อสู้เพื่อความถูกต้องไม่ให้สังคมถูกครอบงำด้วยสิ่งที่ไม่สมควรจะเป็น และอีกอย่างที่สำคัญอีกประการหนึ่งนั้นก็คือการนำเสนอข่าวสารของผมนั้นต้องไม่นำเสนอไม่สู่ความขัดแย้งและความแตกแยกกันของคนในสังคม หากสิ่งที่ผมนำเสนอไปนั้นนำไปสู่ความขัดแย้งและความแตกแยกกันการสื่อสารของผมถือว่าเป็นสิ่งที่ล้มเหลวมากที่สุด โดยเปรียบให้สื่อสิ่งพิมพ์เป็นเป็นอาวุธสำคัญในการสื่อสารกับประชาชน หากสิ่งที่นำเสนอไปนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ความจริงอาจจะเป็นหอกร้ายมาทิ่มแทงได้ แต่หากนำเสนอในสิ่งที่เป็นความจริงก็จะเป็นดาบของอัศวินมาฟาดฟันผู้ไม่หวังดีได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน