หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555

การบริหารองค์กรในรูปแบเครือข่ายมีความสำคัญอย่างไรกับสถานการณ์ความขัดแย้ง

นายมูฮำหมัดอายุบ ปาทาน บรรณาธิการอวุโส DeepSouthWatch กล่าวว่า ผมว่ามันจำเป็นเพราะ ในสถานการณ์คามขัดแย้งในการลงพื้นที่แต่ละครั้งมันต้องอาศัยเครือข่ายเพราะว่าในปัจจุบันนี้มันไม่ใช่เป็นการทำงานแบบเก่า ต้องอาศัยความรอบด้าน ต้องตรวจสอบข้อมูลในเรื่องความถูกต้องมากยิ่งขึ้น เราไม่สามารถทำงานในด้านเดียวได้เพราะว่าการทำงานหรือการหาข้อมูลในด้านเดียวมันจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นไปอีก แต่หากเรามีเครือข่ายมันจะช่วยได้ในเชิงการตรวจสอบข้อมูลได้ในการลงพื้นที่ไปหาแหล่งข่าวที่เราสามารถไปพูดคุยกับคนในพื้นที่ได้เพราะเขาไว้ใจเรา เช่น เครือข่ายเยียวยา เครือข่ายครูสอนศาสนา เป็นต้น ส่วนใหญ่เครือข่ายในสถานการณ์ความขัดแย้งเครือข่ายในภาครัฐเราไม่ค่อยกังวลเพราะเราหาข้อมูลได้แต่เครือข่ายในหมู่ประชาชนเราหาข้อมูลยาก การที่เรามีเครือข่ายแบบนี้เป็นการที่ทำให้เราสามารถมีข้อมูลข่าวสารที่สมดุลกันและอีกอย่างจะเป็นการดัลเบิ้ลเช็กให้เราด้วย

                ในปัจจุบันสื่อในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกปรับให้ทำงานเป็นเครือข่ายมากขึ้น เพราะหากไม่ปรับตัวเองมันจะทำงานยากในสถานการณ์ความขัดแย้ง จะสังเกตเห็นได้ว่าปัจจุบันจะมีเครือข่ายเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น เครือข่ายช่างภาพชายแดนใต้ เครือข่ายสื่อทางเลือก การทำงานเป็นเครือข่ายไม่ใช่เฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งเพื่อให้ได้ข้อมูลข่าวสารอย่างเดียว มันสามารถทำให้ทุกคนมีพื้นที่ในการเรียนรู้ด้วย ในขณะเดียวกันหากไม่มีเครือข่ายจะเป็นการยากในการทำงาน และอีกอย่างในการทำงานเครือข่ายจะเป็นการผ่อนให้สื่อมวลชนสามารถที่จะตรวจสอบกันเองได้ด้วย โดยจะมีเครือข่ายคอยแจ้งเตือนว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ในระบบเครือข่ายมันไม่ใช่เฉพาะแค่บอกว่าเราทำงานเป็นเครือข่าย ในกลุ่มมันเองก็มีกลุ่มในโซเชียลแน็ตเวิร์คอันนี้ก็เป็นเครือข่ายในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเหมือนกัน  ว่าคนไหนทำข่าวเรื่อง ประเด็นอะไร อันนี้คือข้อดีทำให้ทุกคนได้มีสนามของตัวเองในการที่จะเรียนรู้ จากอดีตที่สื่อเคยทำงานเป็นองค์กรเดี่ยวมันไม่ค่อยปรับตัวในลักษณะโซเชี่ยวเน็ตเวิร์ค  ยิ่งสื่อทำงานเป็นเครือข่ายมากขึ้นเท่าไหร่การเชื่อมโยงประเด็นก็จะยิ่งแตกเข้าไปเรื่อยๆและจะเป็นประโยชน์ในการขยายข่าวได้ด้วย
                จริงๆการทำงานแบบเครือข่ายสะท้อนให้เห็นชัดว่าการทำงานแบบเครือข่ายมันสำคัญ คือ 1.มันสะท้อนตั้งแต่ที่มีกาก่อตั้งศูนย์ข่าวอิสรามันจะเห็นชัดว่ามันก็ปรับตัว แม้กระทั่งศูนย์เฝ้าระวังฯเองหากไม่ไม่มีเครือข่ายในตัวมันเองก็จะทำงานไม่ได้ในพื้นที่แบบนี้ เพราะคนมีความระแวงกัน ประชาชนระแวงรัฐ รัฐระแวงประชาชน และสื่อมวลชนเองประชาชนก็ไม่ค่อยไว้ใจโดยถูกเครมมาอยู่กับฝ่ายรัฐเสียแล้ว หากไม่มีเครือข่ายจะเป็นการยากมากที่จะลงไปทำงาน
 
2.สามารถประเมินสถานการณ์ได้เพราะเครือข่ายมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอยู่ตลอดเวลา ว่าข้อมูลต่างๆเป็นอย่างไรจะง่ายในการตรวจสอบ แต่การทำงานเป็นระบบแบบนี้จะต้องมีความอดทนในการปรับตัวจากที่เคยทำงานแบบเดี่ยว  3.สามารถกระจายข่าวสารได้เร็ว โดยไม่สนใจสื่อกระแสหลักจะเสนอหรือไม่เสนอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น